ผมได้เกริ่นนำไปแล้วว่า
มีคนตั้งกระทู้ที่พันธุ์ทิพย์ว่า “ทางสายเดียว/ทางสายเอกอย่างไร”
และผมได้วิพากษ์วิจารณ์ไป 2-3 บทความหนึ่งแล้ว วันนี้มาว่ากันต่อ
หลังจากเสวนากันไปได้สักพักหนึ่ง คุณ Smiling-girl ได้มาบอกลิงก์และเสนอวิดิโอของหลวงพ่อสุรศักดิ์
ดังนี้
ลองกดฟังดูนะคะ
ท่านพระมหาสมบัติ
เทศน์ได้น่าฟังดีค่ะ
ท่านหลวงพ่อสุรศักดิ์ ก็เทศน์ได้น่าจับใจมากค่ะ (แต่แสงมืดไปหน่อย ฟังเนื้อหาเอานะคะ)
|
ท่านเจ้าของกระทู้
ตอบมาว่า
“ไม่มีเวลาดูคลิป อยากให้สรุปความรู้เอามาลงเลย จะได้เสวนากัน”
|
ต่อมาคุณกระต่ายน้อยดัดฟัน
ลูกศิษย์ของหลวงพ่อสุรศักดิ์อีกคนหนึ่ง ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็น ดังนี้
ไม่ได้มาตอบ แต่อยากฝาก จขกท. อยากให้จขกท. ที่สงสัย
แล้วตั้งกระทู้นี้เพื่อถามให้คลายความสงสัยแล้ว
เมื่อได้คำตอบแล้ว คาดว่า คิดว่าอาจจะรู้เรื่องบ้าง
หรือไม่รู้เรื่องบ้าง หรือรู้สึกว่าเข้าใจจริงๆ จากการได้อ่านคำตอบ
หรืออาจจะไปเปิดคลิปด้านบนฟัง แล้วก็พอใจที่ได้คำตอบ ฯลฯ
ก็แล้วแต่ท่านจะรู้สึก
สุดท้าย ลงมือปฏิบัติ ปฏิบัติ ปฏิบัติ ปฏิบัติ นะคะ
เพราะลำพังเพียงแค่อ่าน สิ่งที่ท่านอยากได้คำตอบ
มันจะคนละเรื่องเลยกับการที่ท่านปฏิบัติแล้วเข้าใจด้วยตนเอง
ลองเริ่มหาแนวทางปฏิบัติจากหลวงพ่อสุรศักดิ์ก่อนก็ได้ค่ะ
|
คุณกระต่ายน้อยดัดฟันนี่
ชักชวนให้ไปปฏิบัติกับหลวงพ่อสุรศักดิ์อย่างเดียว
ในกระทู้มีการถกเถียงกันอยู่พักหนึ่ง คุณ Smiling-girl ก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นอีก
ดังนี้
สภาวธรรมที่ท่านๆ อธิบายให้นั้น
จะพึงเข้าใจได้ชัดเจนขึ้นด้วยการ "ปฏิบัติ"
แต่อ่าน 11-1 แล้ว
รู้สึกได้ว่า จขกท.
เอาแต่ถาม ไม่ลงมือปฏิบัติให้เห็นจริงด้วยตนเอง
อยู่ในขั้นเจอวิจิกิจฉาเล่นงาน
เช่นเดียวกับ 5-1 เมื่อคุณไม่เสียเวลาฟัง
คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าที่เราสรุปให้ตรงกับที่พระท่านสอน เหมือนคุณให้สรุปเพื่อจะรอแย้งกลับเรา
งูๆ ปลาๆ
แต่อ่านคำตอบจากคุณบ่อน้ำไม่รู้สึกถึงโทสะผ่านตัวอักษรเลยค่ะ
|
เจ้าของกระทู้ไปติดพันกับท่านผู้เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นอื่นๆ
อยู่อีกพักหนึ่ง คุณ Smiling-girl ก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นอีก ดังนี้
อยากได้คำอธิบายแบบถูกจิตถูกใจ
เชิญที่วัดมเหยงคณ์
หรือวัดบุญญาวาส
หรือวัดปทุมวนาราม
หรือวัดอัมพวัน เลยค่ะ
ถามแบบอยากได้ความรู้
กับถามเพื่อโต้แย้ง
มันคนละฟิวกันนะคะคุณ
ไอ้ประเภทถามเพื่อโต้แย้งเนี่ย
เหล่าปริพาชก เหล่าเดียรถีย์ทำกันมาเยอะแล้ว หลายครั้งพระพุทธเจ้าท่านนิ่ง
ไม่เสวนาด้วยค่ะ
|
คุณ
Smiling-girl
นี่ น่าสงสัยว่า
คงจะเริ่มเข้ามาสู่การปฏิบัติธรรมใหม่ๆ พอเจอใครก็จะชักชวนไปปฏิบัติธรรมอย่างเดียว
การถามของท่านเจ้าของกระทู้แบบนี้
ก็แสดงว่า ท่านเจ้าของกระทู้คงศึกษาศาสนามาพอสมควร ไม่ใช่มือใหม่
หน้าใหม่แบบไม่รู้อะไรเลย
ท่านรู้มาพอสมควร
แต่เริ่มสงสัย การสงสัยของท่านนั้น ก็สงสัยในระดับลึกพอสมควร ก็ขนาดพวกอยู่ในพันธุ์ทิพย์มาเป็น 10 ปี
ยังตอบไม่ถูก
คุณ
Smiling-girl นี่ ชอบเป็นพวกดูเขาโต้แย้งกันก่อน พอได้ทีก็เข้ามาร่วมวง คุณ Smiling-girl
เข้ามาอีกครั้ง ด้วยข้อเขียน ดังนี้
อ้าววว ซาจี๊แล้วเนี่ย ทางสายเอก ทางสายเดียวกับวิธีการเดียว
เหมือนกันหรือ ภาษาไทยแท้ๆ งง ตรงไหนเนี่ย
เหมือนคุณจะไปเชียงใหม่
คุณต้องเดินทางเท่านั้นจะเดินทางด้วยเท้า ด้วยรถยนต์ ด้วยรถไฟ
หรือด้วยเครื่องบิน ก็ว่าไป
จะกาย จะเวทนา จะจิต
จะธรรม ก็ว่าไป ทั้งหมดก็ต้องใช้สติจับดู
แบบนี้น้อง ป.สี่
เข้าใจแล้วนะ
ส่วนคุณจะโอเคยังคะ
|
คุณ
Smiling-girl
นี่ก็ยังเข้าใจผิดเหมือนคนอื่นๆ คือ คิดว่า “สติ” เป็นทางสายเดียว
การที่กล่าวว่า
“สติจับดู กาย เวทนา จิต ธรรม” นั้น
ไม่ใช่คำตอบของคำถามที่ว่า สติปัฏฐาน 4
เป็นทางสายเดียว/ทางสายเอกอย่างไร
คำตอบนั้น
จะต้องอธิบายได้อย่างชัดเจนว่า การตามเห็นกายในกาย การตามเห็นเวทนาในเวทนา การตามเห็นจิตในจิต
การตามเห็นธรรมในธรรมนั้น เป็นทางสายเดียวกันอย่างไร
ที่ยิ่งซับซ้อนไปกว่านั้นก็คือ
การตามเห็นกายในกายนั้น มีทั้งในกายตัวเอง กับในกายของคนอื่น ซึ่งต้องอธิบายให้ได้ว่า
เป็นทางสายเดียวอย่างไร
พระห่มผ้าเหลืองนี่มีเรื่องเล่ากันมาว่า นานมาแล้วมีพระมีชื่อเสียงว่าเป็นกลุ่มปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ จนผู้คนเล่าลือว่าสำเร็จอรหันต์ ท่านได้มาพบปะกัน มีองค์หนึ่งหันไปถามอีกองค์แบบเบาๆว่า เฮาเคยเห็นนิพพานบ่? ผมนึกประโยคนี้ขึ้นมาทีไรอดอมยิ้มไม่ใด้ทุกที นึกถึงความเชื่อผู้คนที่ชอบเชื่อว่าองค์นั้นสำเร็จอย่างโน้นอย่างนี้ ผมเคยเถียงคนพวกนี้ก็เกือบโดนพวกศรัทธาวิมุตกระทืบตายหลายรอบเหมือนกัน.........ฮา
ตอบลบ