บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

โพธิปักขิยธรรมอยู่ในสติปัฏฐาน


เท่าที่สนใจในการสอนของพระพม่า รวมถึงบวชที่วัดอัมพวัน 1 พรรษา ผมค่อนข้างจะ “เซ็งในชีวิตกับความมั่ว มึน งมงาย” พวกสาวกพระพม่าเหลือเกิน

ผลิตผลในทางองค์ความรู้ที่ออกมาจากกลุ่มบุคคลพวกนี้  “ไม่มีความเป็นเหตุเป็นผลในทางวิชาการ” แม้แต่น้อย

โดยสรุปรวมยอดแล้ว พระพม่าและสาวก ปฏิบัติธรรมอยู่แค่ “พิจารณาอิริยาบถใหญ่-อิริยาบทย่อยให้เป็นอนิจจัง-ทุกขัง-อนัตตา” ทำอยู่แค่นี้ เป็นปี เป็นสิบปี

ไม่เคยทำไปมากกว่านี้

พอทำแค่นี้แล้ว ก็เพ้อ ก็ฝัน หันรีหันขวาง จับการปฏิบัติของตน เป็นนู่น เป็นนี่ไปเรื่อย 

ไม่ได้มีหลักฐานจากพระไตรปิฎก มั่วกันลูกเดียว

วันนี้เอาหลักฐานมาเผยแพร่  ได้มาจาก รายงานเรื่อง “การศึกษาวิเคราะห์เรื่องเอกายนมรรคในคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนา” โดยนายปรีชา บุญศรีตัน นักศึกษาปริญญาเอกหลักสูตรพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

คุณปรีชา บุญศรีตัน จะศึกษาเรื่อง “เอกายนมรรค” แล้วก็พบว่า เอกายนมรรคนั้น ไม่ได้มีแค่สติปัฏฐาน  4 ยังมีหัวข้อธรรมะอื่นๆ อีก

ที่สำคัญเลยก็คือ สติปัฏฐาน  4 กับ โพธิปักขยธรรม

ทีนี้ในการศึกษากันอย่างเป็นวิชาการนั้น บางทีเราไม่สามารถจะศึกษาทั้งหมดได้ อย่างเช่นรายงานฉบับดังกล่าว จึงต้องเลือกศึกษาแค่หัวข้อใด หัวข้อหนึ่ง

แล้วท่านผู้อ่านคอยดูว่า ในการเลือกศึกษาประเด็นเรื่อง “เอกายนมรรค” นี้ คุณปรีชา บุญศรีตัน มีเหตุผลของท่านอย่างไร

ผู้วิจัยจึงเลือกเอาหลักสติปัฏฐานมาศึกษาวิเคราะห์ เพราะสติปัฏฐาน  4 นี้พระพุทธเจ้าตรัสด้วยพระองค์เองว่า เป็นเอกายนมรรคและอยู่ในรูปของพระพุทธพจน์ประการหนึ่ง

ประการที่สอง  ผู้วิจัยเห็นว่า

ในสติปัฏฐาน 4 นี้ได้มีเนื้อหาที่ครอบคลุมหลักธรรมอื่นๆ คือ อริยมรรคมีองค์ 8 ก็ดี โพธิปักขิยธรรม 37 ก็ดีรวมอยู่ในสติปัฏฐาน 4 แล้ว

นอกจากนี้ สติปัฏฐาน 4 นี้ยังเป็นหลักปฏิบัติที่หลักการและวิธีการในการปฏิบัติที่เป็นได้ทั้งสมถะและวิปัสสนา ขึ้นอยู่กับผู้ปฏิบัติว่า จะมีเป้าหมายในการปฏิบัติไปในแนวทางไหน

คือ จะใช้หลักการปฏิบัติในสติปัฏฐานมาปฏิบัติเพื่อให้เกิดความสงบใจก็ได้ หรือจะใช้เป็นหลักปฏิบัติเพื่อให้เกิดปัญญาก็ได้

เพราะถ้าการปฏิบัติธรรมที่เป็นเพียงการพิจารณาโดยไม่ได้ยกขึ้นสู่หลักไตรลักษณ์เพื่อให้เห็นความไม่เที่ยง ความไม่คงทนและความไม่เป็นตัวตนแล้วของสิ่งเหล่านั้น

การปฏิบัติเช่นนี้ถือว่ายังอยู่ในบริบทของสมถกรรมฐานอยู่

เมื่อใดมีการพิจารณากาย เวทนา จิต ธรรม โดยยกขึ้นสู่ไตรลักษณ์ จึงจะได้ชื่อว่า เป็นวิปัสสนากรรมฐาน

เมื่อผมอ่านเหตุผลของคุณปรีชา บุญศรีตันแล้ว และก็อ่านบทความฉบับมาเป็นสิบๆ เที่ยวแล้ว  วิชานี้ ผมให้ D แก่คุณปรีชา 

อยากจะให้ F เสียด้วยซ้ำ แต่เห็นว่า รายงานนี้ ยังมีความเป็นรายงานอยู่ แต่คนทำ “ไม่เป็นกลาง” เสือกไปเชื่อพระพม่า แล้วจึงทำบทความอย่างนี้ออกมา

ขอวิพากษ์วิจารณ์เป็นส่วนๆ ไป

ผู้วิจัยจึงเลือกเอาหลักสติปัฏฐานมาศึกษาวิเคราะห์ เพราะสติปัฏฐาน 4 นี้พระพุทธเจ้าตรัสด้วยพระองค์เองว่า เป็นเอกายนมรรคและอยู่ในรูปของพระพุทธพจน์ประการหนึ่ง

เหตุผลนี้ ก็มั่วสุดๆ เพราะ โพธิปักขิยธรรม 37 ก็เป็นพุทธพจน์ 

ประการที่สอง ผู้วิจัยเห็นว่า ในสติปัฏฐาน 4 นี้

ได้มีเนื้อหาที่ครอบคลุมหลักธรรมอื่น ๆ คือ อริยมรรคมีองค์ 8 ก็ดี โพธิปักขิยธรรม  37 ก็ดีรวมอยู่ในสติปัฏฐาน  4 แล้ว

อันนี้แหละมั่วสุดๆ  มั่วจนไม่รู้จะบรรยายอย่างไร ข้อให้ดูตารางนี้

หัวข้อธรรมะ
รายละเอียดของหัวข้อธรรมะของโพธิปักขยธรรม
มรรค 8
1. สัมมาทิฏฐิ 2. สัมมาสังกัปปะ 3. สัมมาวาจา 4. สัมมากัมมันตะ 5. สัมมาอาชีวะ 6. สัมมาวายามะ 7. สัมมาสติ 8. สัมมาสมาธิ
โพชฌงค์ 7
1. สติสัมโพชฌงค์ 2. ธัมมวิจยสัมโพชฌงค์ 3. วิริยสัมโพชฌงค์ 4. ปีติสัมโพชฌงค์ 5. ปัสสัทธิสัมโพชฌงค์ 6. สมาธิสัมโพชฌงค์ 7. อุเบกขาสัมโพชฌงค์
พละ 5
1. สัทธาพละ 2. วิริยะพละ 3. สติพละ 4. สมาธิพละ 5. ปัญญาพละ
อินทรีย์ 5
1. สันธินทรีย์  2. วิริยินทรีย์ 3. สตินทรีย์ 4. สมาธินทรีย์ 5. ปัญญินทรีย์
อิทธิบาท 4
1. ฉันทะ 2. วิริยะ 3. จิตตะ 4. วิมังสา
สัมมัปปธาน 4
1. สังวรปธาน 2. ปหานปธาน 3. ภาวนาปธาน 4. อนุรักขนาปธาน
สติปัฏฐาน 4
1. กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน 2. เวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน 3. จิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน 4. ธรรมมานุปัสสนาสติปัฏฐาน

สติปัฏฐาน  4 นั้น อยู่ในโพธิปักขยธรรม ไม่ใช่ โพธิปักขยธรรม อยู่ในสติปัฏฐาน 4

นอกจากนี้ สติปัฏฐาน 4 นี้ยังเป็นหลักปฏิบัติที่หลักการและวิธีการในการปฏิบัติที่เป็นได้ทั้งสมถะและวิปัสสนา ขึ้นอยู่กับผู้ปฏิบัติว่า จะมีเป้าหมายในการปฏิบัติไปในแนวทางไหน

คือ จะใช้หลักการปฏิบัติในสติปัฏฐานมาปฏิบัติเพื่อให้เกิดความสงบใจก็ได้ หรือจะใช้เป็นหลักปฏิบัติเพื่อให้เกิดปัญญาก็ได้

อันนี้ก็มั่ว  หัวข้อทั้งสมถะ  40 กับวิปัสสนา  71 (ขันธ์ 5 อายตนะ 12 ธาตุ 18 อินทรีย์ 22 อริยสัจ 4 ปฏิจจสมุปบาท 12) ไม่มีในสติปัฏฐาน 4 

ในกรณีที่หัวข้อธรรมะชื่อเหมือนกัน ระดับการศึกษาก็ต้องต่างๆ เพราะ อยู่กันคนละหัวข้อธรรมะ

เพราะถ้าการปฏิบัติธรรมที่เป็นเพียงการพิจารณาโดยไม่ได้ยกขึ้นสู่หลักไตรลักษณ์ เพื่อให้เห็นความไม่เที่ยง ความไม่คงทนและความไม่เป็นตัวตนแล้วของสิ่งเหล่านั้น

การปฏิบัติเช่นนี้ถือว่ายังอยู่ในบริบทของสมถกรรมฐานอยู่

เมื่อใดมีการพิจารณากาย เวทนา จิต ธรรม โดยยกขึ้นสู่ไตรลักษณ์ จึงจะได้ชื่อว่า เป็นวิปัสสนากรรมฐาน

ตรงนี้เกือบถูก คือ ในหลักการถูกต้อง ที่วิธีการผิดโดยสิ้นเชิง เพราะ การพิจารณาพระไตรลักษณ์นั้น ศัพท์จริงเขาเป็น อนิจจานุปัสสนา ทุกขานุปัสสนา อนัตตานุปัสสนา คือ ต้องตามเห็นกันจริงๆ จัง ไม่ใช่คิดไป

โดยสรุป รายงานฉบับนี้ คนทำ “เชื่อ” พระพม่าไปก่อน  แล้วจึงพยายามไปหาเนื้อหามาใส่ มันก็เลยมั่วไปหมด ไม่มีความเป็นเหตุเป็นผลในตัวรายงานนี้เลย

ผมไม่รู้ว่า คุณปรีชาคนนี้ เรียนจบปริญญาเอกหรือไม่  ผมเดาว่า “ไม่น่าจะจบ” 




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น